รีวิวซีรีส์ The First Night With the Duke ตื่นมาตกใจ… แต่หัวใจกลับเต้นแรงกว่าที่คิด!ถ้าคุณเป็นสายโรแมนติกแฟนตาซีที่ชอบความฟีลกู๊ดปนฮาแบบไม่ต้องคิดเยอะ (ตื่นมาอีกทีก็มีพระเอกนอนอยู่ข้างๆ) คือหนึ่งในซีรีส์ที่เปิดดูปุ๊บยิ้มออกทันที เพราะมันรวมทุกอย่างที่ทำให้หัวใจเต้นตุบๆ—พระเอกสุดหล่อ คาแรกเตอร์หลุดโลก และสถานการณ์ชวนหน้าแดงที่เกิดขึ้นแบบไม่ให้ตั้งตัว!
ความน่ารักของตัวละคร—หัวใจหลักที่ทำให้ดูเพลิน
เรื่องเปิดมาด้วยพล็อตสุดคลาสสิกแต่เล่าได้น่ารักมาก นางเอกของเรา—ริเซล—สาวยุคปัจจุบันที่บังเอิญทะลุมิติเข้าไปในโลกนิยายที่ตัวเองเคยอ่าน ซึ่งฟังดูเหมือนสูตรเดิม แต่จุดที่ทำให้สนุกคือ… เธอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า “พระเอกของเรื่องกำลังนอนอยู่ข้างๆ แบบแนบชิดชนิดที่หัวใจแทบหยุดเต้น” และใช่ค่ะ/ครับ—เธอตกใจยิ่งกว่าตกน้ำ แต่คนดูนี่แหละเขินกันทั้งประเทศ!
ฉากเปิดตัวนี้คือหมัดแรกที่ทำให้ซีรีส์น่าดูสุด ๆ เพราะบรรยากาศทั้งโก๊ะ ทั้งหวาน และทั้งลุ้นว่า… เอ๊ะ มันเกิดขึ้นได้ยังไง? แล้วใจเจ้าชายเย็นชาแบบนั้น จะรับมือกับสาวจากอนาคตที่ทำอะไรคาดเดาไม่ได้ยังไงกันแน่?
ต้องยอมรับเลยว่าเคมีระหว่างพระเอกกับนางเอกคือ “จุดแข็งที่สุด” ของเรื่อง นางเอกริเซลเป็นหญิงสาวที่มีความซื่อจริงใจและมีความเปิ่นนิด ๆ แบบตัวเอกสายโรแมนติกแฟนตาซีที่น่ารัก โดยเฉพาะเวลาที่เธอพยายามไม่ทำเหตุการณ์ให้หลุดจากเนื้อเรื่องเดิม แต่สุดท้ายก็พังเพราะความเผลอเรอของตัวเอง—ซึ่งดูแล้วเอ็นดูแทน!
ส่วนพระเอก—ดยุกเอลีฮาน—นั้นคือสูตรผสมของ “หนุ่มหล่อเย็นชา + แอบหวงเธอแบบไม่รู้ตัว” แต่พออยู่กับริเซลแล้ว กลับมีโมเมนต์หวั่นไหวที่หลุดออกมาให้คนดูฟินทุกตอน ท่าทีหยิ่ง ๆ ที่ค่อย ๆ แตกออกกลายเป็นความอบอุ่นนี่แหละ ที่ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนหัวใจโดนลูบเบา ๆ แบบไม่ตั้งใจ
เนื้อเรื่อง—สนุกแบบเบาสมอง แต่มีความลุ้นให้ติดตาม
แม้พล็อตทะลุมิติจะเป็นสูตรที่เห็นบ่อย แต่เรื่องนี้ใส่ความเป็น “ชะตากรรมในโลกนิยาย” ได้ดี โดยริเซลพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปยุ่งกับเส้นเรื่องดั้งเดิม เพราะกลัวว่าตัวเองจะทำทุกอย่างพัง แต่ยิ่งหนีเธอก็ยิ่งไปเกี่ยวจนเกิดเรื่องชวนลุ้นตลอด
ความพิเศษคือการเล่าเรื่องที่ผสมทั้งโรแมนติก ตลก และดราม่านิด ๆ แบบลงตัวมาก ทำให้ทุกตอนดูแล้วไม่เบื่อ เพราะจะมีเหตุการณ์ให้ลุ้นว่า ตัวละครจะเปลี่ยนเส้นเรื่องเดิมจนกลายเป็น “โลกใหม่” แบบไหนกันแน่
นอกจากนี้ยังมีตัวละครสมทบที่เพิ่มสีสัน เช่น สหายของพระเอก คนในวัง และตัวร้ายที่มาพร้อมความน่าหมั่นไส้แบบกำลังดี ทำให้เรื่องมีมิติและดูสนุกขึ้นกว่าเดิม
โปรดักชัน—สวยงาม ฟุ้งแบบโลกนิยาย
สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างคือฉากและคอสตูมที่ทำออกมาได้ฟีล “เทพนิยายยุโรป” แบบกำลังดี ไม่เว่อร์จนเกินจริง แต่ก็สวยพอให้รู้สึกว่ากำลังอยู่ในโลกใหม่ที่โรแมนติกและมีเสน่ห์
แสง สี และดนตรีประกอบก็ช่วยสร้างอารมณ์ได้ดีมาก โดยเฉพาะฉากใกล้ชิดที่กล้องชอบถ่ายช้า ๆ เหมือนจงใจให้เราฟินจนตัวบิด—ต้องชมตรงนี้เลยว่าทำได้ลงตัวสุด ๆ
ทำไมเรื่องนี้ถึงดูแล้ว “ยิ้มง่าย”
- เคมีพระ-นางดีแบบไม่ต้องลุ้น
- มุกตลกธรรมชาติ ไม่ฝืน
- เนื้อเรื่องเบาสมอง แต่มีเป้าหมายให้ติดตาม
- ตัวละครอบอุ่น น่ารัก และมีเสน่ห์ทุกตัว
- ดูแล้วสบายใจเหมือนได้พักใจในโลกนิยายสวย ๆ
สรุป—ซีรีส์สำหรับวันเหนื่อย ๆ ที่ต้องการอะไรเติมหัวใจ
ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ “ดูง่ายและทำให้หัวใจพองฟู” (ตื่นมาอีกทีก็มีพระเอกนอนอยู่ข้างๆ) คือคำตอบแบบไม่ต้องคิดเลย มันมีความโรแมนติกแบบหวานละมุน ผสมความตลกพอให้ยิ้ม และมีพล็อตที่น่าติดตามแม้จะเป็นแนวทะลุมิติที่คุ้นเคย
ดูแล้วเหมือนมีใครเอาผ้าห่มอุ่น ๆ มาคลุมใจ—และบางฉากก็ทำให้แก้มแดงจนต้องกรี๊ดเบา ๆ คนเดียวในห้องด้วย!
