ยอมรับเลยว่าช่วงนี้ซีรีส์จีนแนวย้อนยุคกำลังภายในกลับมาบูมหนักมาก แต่ถ้าถามหาเรื่องที่ “ฉีก” และ “สดใหม่” จริงๆ ชั่วโมงนี้คงต้องยกให้ “The Journey of Legend“ ที่เพิ่งลงจอแบบซับไทยให้เราได้ตามเก็บกันแบบฟรีๆ ที่ TrueID ดูไปดูมาก็อดไม่ได้ที่จะมานั่งเขียนระบายความประทับใจให้คนคอเดียวกันได้ไปตามดู บอกเลยว่าใครที่เคยเบื่อพล็อตเดิมๆ ของยุทธภพ ซีรีส์เรื่องนี้คือคำตอบ!
จากข้อมูลที่ตามเก็บมาและจากการได้ดูเองจนถึงตอนล่าสุด (บอกเลยว่าดูฟรีที่ TrueID นี่สบายใจมาก ไม่ต้องกลัวพลาดสักตอน) สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่นตั้งแต่ต้นจนถึงช่วงกลางเรื่องคือคอนเซ็ปต์การ “ทะลุมิติ” ที่ไม่ใช่แค่สลับร่างเฉยๆ แต่เป็นการพาแฟนนิยายกำลังภายในตัวยงอย่าง เซียวหมิงหมิง เข้าไปอยู่ในร่างของตัวเอกในโลกนิยายที่เขาหลงใหลอย่าง เซียวชิวสุ่ย ซึ่งเริ่มต้นแบบกากๆ ไร้วรยุทธ์เลยนี่แหละ!
ไอเดียนี้มันทำให้เราคนดูรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละครได้ง่ายมาก เพราะเซียวหมิงหมิงก็ไม่ต่างจากพวกเราที่อ่านหรือดูซีรีส์กำลังภายในแล้วมโนว่าตัวเองเป็นจอมยุทธ์ การที่เห็นพระเอกที่รู้นิยายดีทุกอย่าง แต่ต้องมาเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า “การฝึกวรยุทธ์มันไม่ง่ายเหมือนในหนังสือ” ทำให้เส้นเรื่องมันสนุก ตลก และน่าเอาใจช่วยมากๆ ยิ่งในตอนล่าสุดที่เราได้เห็นการเติบโตของเซียวชิวสุ่ย (ที่จริงคือเซียวหมิงหมิง) จากคนที่ใช้ความรู้จากการอ่านนิยายมาเอาตัวรอด กลายเป็นคนที่ต้องใช้ “ความพยายาม” และ “ความรับผิดชอบ” จริงๆ เพื่อปกป้องคนรอบข้างและยุทธภพ

แน่นอนว่ามาถึงจุดนี้จะมองข้ามการแสดงของ เฉิงอี้ ในบทบาทพระเอกไม่ได้เลย! พ่อหนุ่มคนนี้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเขาคือตัวจริงของวงการกำลังภายใน ด้วยการแสดงที่ถ่ายทอดความขี้เล่น ความกะล่อน และความเนิร์ดของเซียวหมิงหมิงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะค่อยๆ ปรับเข้าสู่โหมดจอมยุทธ์ผู้มีคุณธรรม ทำให้เราอินและเชื่อในพัฒนาการของตัวละครนี้แบบหมดใจส่วนเคมีกับนางเอกอย่าง กู่ลี่น่าจา ในบทบาท เซียวเสวี่ยอวี๋ ก็ลงตัวสุดๆ ทั้งคู่มีการรับส่งอารมณ์ที่ลื่นไหล ตัวละครเซียวเสวี่ยอวี๋เองก็มีมิติ มีเบื้องหลังที่น่าค้นหา ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้มีแค่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่ยังมีเรื่องของความผูกพันในครอบครัวและความรับผิดชอบต่อยุทธภพเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นไปอีก
พูดถึงงานภาพและฉากต่อสู้ ซีรีส์นี้ก็ทำได้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ (จริงๆ ทีมงานเดียวกับ หอดอกบัวลายมงคล เลยนะ!) ฉากแอ็กชันทำได้สวยงามตามมาตรฐาน ไม่ได้เน้นอลังการเวอร์วัง แต่เน้นความคมชัดและท่วงท่าที่ดูมีพลัง แถมยังมีการใช้ภาพและมุมกล้องที่ดูอาร์ต ผสมผสานความแฟนตาซีกับกำลังภายในแบบโบราณได้อย่างลงตัว ส่วนคอสตูมก็สวยงามตามท้องเรื่อง ถือว่าสอบผ่านทุกด้านจริงๆ
สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะดูซีรีส์เรื่องไหนดี หรือกำลังตามหาซีรีส์ที่ดูเพลินๆ ไม่หนักจนเกินไป แต่ก็มีปมให้ติดตามตลอด “สู่ภูผามหาสมุทร” เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากๆ ลองเข้าไปดูสักสองสามตอนแรก รับรองว่าจะวางไม่ลง! และที่ดีที่สุดคือตอนนี้สามารถดูแบบซับไทยได้แบบ “ฟรีๆ ที่ TrueID” เลยนะ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเสียเงิน แค่คลิกเข้าไปก็พร้อมลุยยุทธภพไปกับเซียวชิวสุ่ยแล้ว!
สรุปสั้นๆถ้าคุณชอบกำลังภายในที่มีพล็อตแหวกแนว มีพระเอกที่พัฒนาตัวเองได้น่าติดตาม และงานภาพสวยๆ ต้องไม่พลาดเรื่องนี้เด็ดขาด! รีบตามไปดูตอนล่าสุดกันเลย!




