สำหรับเรื่อง “ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้” เป็นภาพยนตร์สร้างจากเรื่องจริงที่น่าประทับใจของ คริส การ์ดเนอร์ นำแสดงโดย วิล สมิธ ซึ่งรับบทนี้ได้อย่างสมจริงจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีเนื้อหาเพียงแค่การต่อสู้เพื่อความสำเร็จ แต่เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความยากลำบากทางกายและใจของชายคนหนึ่งที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อดูแลลูกชายสุดที่รักของเขา
เรื่องย่อและเนื้อหาหลัก
ภาพยนตร์เล่าเรื่องของ คริส การ์ดเนอร์ พ่อค้าเครื่องสแกนกระดูกที่ไม่เป็นที่นิยม เขาลงทุนเงินทั้งหมดไปกับเครื่องมือทางการแพทย์นี้ แต่กลับขายไม่ได้ตามเป้าหมาย ทำให้ชีวิตของเขากับภรรยาและลูกชายวัย 5 ขวบต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเงินอย่างหนักหน่วงจนถึงขั้นล้มละลายเมื่อชีวิตมาถึงจุดที่ไม่มีอะไรจะเสีย คริสได้ตัดสินใจสมัครเข้าฝึกงานในบริษัทหลักทรัพย์ Dean Witter ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่มีเงินเดือน การแข่งขันสูง และมีโอกาสน้อยมากที่จะได้งานประจำ แต่ด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น เขาจึงยอมรับข้อเสนอนี้และทุ่มเททุกอย่าง
ชีวิตของคริสและลูกชายต้องเข้าสู่บททดสอบที่โหดร้ายที่สุด ทั้งคู่ต้องไร้ที่อยู่อาศัย ต้องนอนตามสถานีรถไฟใต้ดิน หรือบ้านพักคนไร้บ้าน และอาศัยเงินจากศูนย์ช่วยเหลือ แต่แม้จะต้องเผชิญหน้ากับความสิ้นหวังในทุกๆ วัน คริสก็ไม่เคยท้อถอย เขาต้องแบ่งเวลาไปทำงาน วิ่งรอกขายเครื่องสแกน และดูแลลูกชายอย่างเต็มที่ความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการแสดงถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างพ่อกับลูกชาย ซึ่งนำแสดงโดย เจเดน สมิธ ลูกชายแท้ๆ ของวิล สมิธ ความไร้เดียงสาและความเข้าใจของเด็กชายตัวน้อยทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและเอาใจช่วยพวกเขาในทุกช่วงของชีวิตที่ยากลำบากภาพยนตร์แสดงให้เห็นถึงความพยายามของคริสในทุกๆ ด้าน ทั้งการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบให้ได้คะแนนสูงสุด การทำงานหนักกว่าคนอื่นเพื่อสร้างความประทับใจให้เจ้านาย และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน
ความประทับใจและข้อคิดที่ได้รับ
- ความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ภาพยนตร์ถ่ายทอดให้เห็นว่าการต่อสู้ในชีวิตจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ความอดทนและความมุ่งมั่นของคริส การ์ดเนอร์คือแรงบันดาลใจสำคัญที่บอกเราว่า “อย่าท้อถอยแม้จะล้มเหลวหลายครั้งก็ตาม”
- พลังของความรัก หัวใจหลักของเรื่องคือความรักที่คริสมีต่อลูกชาย ความรักนี้เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขาสู้ต่อไป ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน
- คำว่า “ความสุข” ชื่อภาพยนตร์ The Pursuit of Happyness ที่สะกดผิดโดยเจตนา เป็นการสื่อถึงการแสวงหาความสุขที่อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบในทันที แต่เป็นความสุขจากการได้ต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีขึ้น
- การแสดงที่ยอดเยี่ยม วิล สมิธแสดงบทบาทนี้ได้อย่างลึกซึ้งและน่าเชื่อถือ เขาสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของความเหนื่อยล้า ความสิ้นหวัง และความหวังออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- ถ่ายทอดชีวิตจริงของ คริส การ์ดเนอร์ ได้อย่างตรงตัวและซาบซึ้ง ภาพสะท้อนในหลายแง่มุมตั้งแต่สถานที่ เหตุการณ์ จนถึงอารมณ์ของตัวละคร
- การแสดงของ Will Smith และ Jaden Smith ซึ่งเป็นพ่อลูกในชีวิตจริง ทำให้เคมีในฉากสัมพันธ์พ่อลูกอบอุ่นและสมจริงอย่างมาก
- เทคนิคเล่าเรื่อง เช่น การใช้ รูบิคคิวบ์ สื่อถึงความสามารถด้านตัวเลขของคริส ช่วยย่นเวลาการเล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย และกระชับน่าติดตาม
บทสรุปเรื่องราว
โดยรวมการ รีวิวภาพยนตร์ “ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้” ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ที่ให้กำลังใจ แต่ยังเป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของความพยายาม ความรัก และความหวัง เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วจะรู้สึกอยากลุกขึ้นมาสู้เพื่อตัวเองและคนที่รักอีกครั้ง ไม่ว่าชีวิตจะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม
ช่องทางชมภาพยนตร์:
ตัวอย่างหนัง:ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้
หนังที่แนะนำน่าสนใจ:
Ghost Killer (2024) ภาพยนตร์ญี่ปุ่น ผีนักฆ่าสุดมันส์