ซีรีส์ The Queen’s Gambit ไม่ใช่แค่ซีรีส์ที่พูดถึงการแข่งขันหมากรุก แต่มันคือภาพสะท้อนการเติบโต ความสูญเสีย การเสพติด และความพยายามในการเอาชนะเงาของอดีตอย่างทรงพลัง ซีรีส์ความยาว 7 ตอนจาก Netflix นี้สร้างจากนิยายชื่อเดียวกันของ Walter Tevis และได้รับเสียงชื่นชมถล่มทลายตั้งแต่วันแรกที่ออกฉาย
เรื่องราวติดตามชีวิตของ เบธ ฮาร์มอน เด็กกำพร้าผู้เงียบขรึมที่ค้นพบพรสวรรค์ในการเล่นหมากรุกตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ เธอเรียนรู้เทคนิคหมากรุกจากภารโรงที่สถานเลี้ยงเด็ก และแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ใช่แค่เด็กอัจฉริยะธรรมดา แต่คือ “อัจฉริยะที่เต็มไปด้วยปัญหา” ตลอดเส้นทางการเป็นนักหมากรุกระดับโลก เบธต้องเผชิญกับการต่อสู้มากมาย — ทั้งในสนามแข่งขันและภายในจิตใจของเธอเอง ซีรีส์ถ่ายทอดประเด็น การเป็นผู้หญิงในโลกของผู้ชาย ได้อย่างเฉียบคม เบธต้องพิสูจน์ตัวเองในวงการหมากรุกที่ผู้ชายครองอยู่แทบทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเก่งแค่ไหน เธอก็ยังถูกตั้งคำถามและมองข้ามเสมอ
Anya Taylor-Joy คือหัวใจของซีรีส์เรื่องนี้ เธอแสดงเป็นเบธได้อย่างทรงพลัง ถ่ายทอดทั้งความเฉียบแหลม ความหม่นเศร้า ความเย่อหยิ่ง และความเปราะบางได้ในเวลาเดียวกัน ทุกสีหน้า ท่าทาง และแววตาของเธอสะกดผู้ชมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะฉากการแข่งขันหมากรุกที่ไร้บทสนทนา แต่กลับตึงเครียดได้อย่างเหลือเชื่อ นักแสดงสมทบอย่าง Thomas Brodie-Sangster, Harry Melling และ Marielle Heller ก็เติมเต็มเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีใครโดดเด่นเกินใคร ทุกตัวละครล้วนมีมิติ และมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมตัวตนของเบธ
อีกหนึ่งจุดแข็งของ The Queen’s Gambit คือ งานสร้างที่งดงามราวภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบฉาก เสื้อผ้า หรือการจัดแสง โทนภาพอบอุ่นคลาสสิกสะท้อนยุค 1950s–60s ได้อย่างสมจริง แต่ยังคงความร่วมสมัยในเชิงอารมณ์ เสื้อผ้าของเบธยังเป็นตัวสะท้อนพัฒนาการทางจิตใจของเธอด้วย — จากเด็กกำพร้าสวมชุดเรียบง่าย สู่ผู้หญิงที่มีอำนาจในการควบคุมภาพลักษณ์ของตัวเองแม้คุณจะไม่รู้จักหมากรุกมาก่อน ก็สามารถเพลิดเพลินกับซีรีส์นี้ได้ เพราะฉากหมากรุกไม่ได้ถูกนำเสนอด้วยศัพท์เทคนิคซับซ้อน แต่ถูกเล่าแบบเข้าใจง่าย เน้นการถ่ายทอดอารมณ์ ความกดดัน และการตัดสินใจภายใต้เวลาที่บีบคั้น
ซีรีส์ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับ ความสำเร็จ vs. สุขภาพจิต ได้อย่างน่าสนใจ เบธต้องเผชิญกับการเสพติดทั้งยากล่อมประสาทและแอลกอฮอล์ ซึ่งเปรียบได้กับ “ปีศาจเงียบ” ที่เติบโตมาพร้อมพรสวรรค์ของเธอ มันเป็นคำถามว่า คนที่เก่งที่สุด จำเป็นต้องแบกรับอะไรบ้างและคุณค่าของความเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหนเมื่อคุณไม่สามารถมีความสุขกับสิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด คือซีรีส์ดราม่า The Queen’s Gambit ที่กลมกล่อมทั้งด้านบท ภาพ การแสดง และจังหวะเล่าเรื่อง มันเป็นมากกว่าซีรีส์หมากรุก แต่มันคือเรื่องราวของการเติบโตของมนุษย์คนหนึ่ง ที่ต้องเรียนรู้ว่า “การเอาชนะตัวเอง” นั้นสำคัญไม่แพ้การชนะคู่แข่งบนกระดาน
