หากคุณกำลังมองหาเกมแนว Action RPG ที่ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน แต่เน้นความสะใจในการกระโดดฉีกร่างศัตรูให้เป็นชิ้นๆ Werewolf: The Apocalypse – Earthblood คือเกมที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์นั้นครับ เกมนี้หยิบเอาแฟรนไชส์ World of Darkness (จักรวาลเดียวกับ Vampire: The Masquerade) มานำเสนอในมุมมองของ “มนุษย์หมาป่า” ผู้พิทักษ์ธรรมชาติที่ต้องห้ำหั่นกับเทคโนโลยีและมลพิษ
ข้อมูลเบื้องต้น
- ผู้พัฒนา: Cyanide Studio
- ผู้จัดจำหน่าย: Nacon
- แนวเกม: Action RPG / Stealth
- แพลตฟอร์ม: PC, PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S
เนื้อเรื่องย่อ: การล้างแค้นเพื่อ “แม่พระธรณี” (Gaia)
ในเกมนี้เราจะได้รับบทเป็น Cahal (คาฮาล) นักรบมนุษย์หมาป่าเผ่า Fianna ผู้แข็งแกร่ง เขาต้องเนรเทศตัวเองออกจากฝูงหลังจากเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เขาไม่สามารถควบคุม “ความโกรธเกรี้ยว” (Rage) ของตัวเองได้
หลายปีผ่านไป คาฮาลตัดสินใจกลับมาช่วยเผ่าของเขาอีกครั้ง เพื่อทำสงครามต่อต้าน Endron บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานที่เป็นร่างอวตารของ The Wyrm (พลังงานแห่งการทำลายล้าง) ซึ่งกำลังสูบกินทรัพยากรและทำลายสมดุลของโลก ภารกิจของคาฮาลจึงไม่ใช่แค่การล้างแค้นส่วนตัว แต่เป็นการปกป้อง Gaia หรือแม่พระธรณีให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคอร์ปอเรชันโฉดนั่นเอง
จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้น่าติดตาม: ระบบ “3 ร่าง” ในหนึ่งเดียว
สิ่งที่ทำให้ Earthblood แตกต่างจากเกม Action ทั่วไปคือการที่ผู้เล่นสามารถ สลับร่าง ไปมาได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ ซึ่งแต่ละร่างจะมีเกมเพลย์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน:
- ร่างมนุษย์ (Homid): ใช้สำหรับการปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น แฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ และการลอบสังหารเงียบๆ ด้วยหน้าไม้
- ร่างหมาป่า (Lupus): ใช้สำหรับการลอบเร้น (Stealth) ร่างนี้จะเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว มุดเข้าท่อระบายอากาศ และตรวจจับศัตรูได้ดี
- ร่างมนุษย์หมาป่า (Crinos): นี่คือไฮไลท์ของเกม! เมื่อการเจรจาหรือการลอบเร้นล้มเหลว คุณจะกลายร่างเป็นอสูรกายสูง 8 ฟุต เพื่อเข้าสู่โหมดเดินหน้าฆ่ามันเต็มรูปแบบ
ข้อดีที่ทำให้คุณควรลองเล่น
- ระบบการต่อสู้ที่ดุดันและสะใจ: เมื่อเข้าสู่ร่าง Crinos เกมจะเปลี่ยนจากเกมลอบเร้นกลายเป็น Hack & Slash ทันที คุณสามารถเลือกโพซิชันการต่อสู้ได้ระหว่าง Agile (เน้นพริ้วไหว) และ Heavy (เน้นพลังทำลาย) ท่วงท่าการฉีกกระชากศัตรูทำออกมาได้ถึงใจพระเดชพระคุณมาก
- การจัดการความโกรธ (Rage Management): เกมมีกลไกที่น่าสนใจคือ ยิ่งคุณสู้มาก ความโกรธก็ยิ่งสะสม และเมื่อมันพุ่งทะลุขีดจำกัด คุณจะเข้าสู่สภาวะ Frenzy ที่เพิ่มพลังโจมตีมหาศาล แต่นั่นหมายความว่าคุณจะเสียการควบคุมบางอย่างไป ซึ่งตรงตาม Lore ของมนุษย์หมาป่าเป๊ะๆ
- บรรยากาศและเพลงประกอบ: สำหรับสายร็อคและเมทัล คุณจะฟินมาก! เพราะในจังหวะที่เข้าสู่การต่อสู้ เพลงแนว Heavy Metal จะดังขึ้นมาปลุกเลือดในตัวให้สูบฉีด เข้ากับธีมการทำลายล้างเครื่องจักรกลสุดๆ
- เนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน: หากคุณเหนื่อยจากเกม Open World ที่มีเควสต์ย่อยนับพัน เกมนี้เป็นแบบ Linear (เส้นตรง) ที่ชัดเจน เดินหน้าทำภารกิจตามเนื้อเรื่อง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสพเนื้อหาและจบเป็นพาร์ทๆ ไป
สรุปภาพรวม
อาจไม่ใช่เกมระดับ AAA ที่มีกราฟิกสวยหยดหรือระบบซับซ้อนที่สุด แต่เป็นเกมที่ “จริงใจ” กับแนวทางของตัวเอง มันคือเกมที่มอบประสบการณ์การเป็นสัตว์ร้ายได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้าคุณชอบสะสมแต้มความโกรธแล้วไประบายใส่หุ่นยนต์หรือทหารเลว เกมนี้คือคำตอบครับ!
“เพราะบางครั้ง การเจรจาก็ไม่สู้การฝังเขี้ยวลงบนคอศัตรู”
