RESET นำเสนอเรื่องราวของอาร์มิน ดาราที่เคยรุ่งโรจน์แต่ต้องเผชิญหน้ากับการนอกใจ การต่อสู้ และความตายที่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุ ผ่านฝีมือการกำกับของ ณัฐพงศ์ วงษ์กวีไพโรจน์ และการแสดงสุดทุ่มเทของ ปอนด์ พลวิชญ์ เกตุประภากร ซีรีส์ไทย แนวละครเรื่องนี้ผสมผสานความเป็น ละครน้ำเน่าแบบไทย เข้ากับความดราม่าที่ทันสมัย ทำให้เราทั้งหัวเราะ ร้องไห้ และลุ้นไปกับตัวละคร
การเกิดใหม่ของดวงดาว บอกเล่าเรื่องราวของ อาร์มิน ดาราดังที่ชีวิตถึงจุดสูงสุดเมื่อคว้ารางวัลใหญ่ แต่ความสุขนั้นพังทลายเมื่อเขาพบว่าแฟนหนุ่มนอกใจ ซ้ำยังต้องเผชิญหน้ากับศัตรูและการต่อสู้ที่นำไปสู่ความตายของเขา ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นการวางยาพิษ! แต่แทนที่จะจบชีวิต อาร์มินตื่นขึ้นมาในอดีต ยุคที่เขายังเป็นเพียงดาราหน้าใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักในวัย 20 ต้นๆ ทุกอย่างเหมือนเดิม ยกเว้นการปรากฏตัวของ ธาดา (รับบทโดย ปีเตอร์แพน ทัศน์พล วิวิธวรรธ์) แฟนตัวยงที่เข้ามาช่วยให้อาร์มินก้าวสู่ความสำเร็จเร็วกว่าชีวิตที่แล้ว
การย้อนเวลาครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย อาร์มินต้องเผชิญหน้ากับความทรงจำเก่าๆ และพยายามหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่เคยทำร้ายเขา เขาต้องระวัง ชาร์ลี แฟนเก่าที่นอกใจ และ แซม เพื่อนที่ทรยศ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนคือความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัวกับธาดา หนุ่มหล่อที่ทั้งปกป้องและทุ่มเทให้กับเขา เรื่องราวของ RESET ไม่ได้เน้นแค่การแก้แค้น แต่พูดถึงการให้โอกาสตัวเองในการรักและใช้ชีวิตอย่างที่ใจต้องการ
นำเสนอสไตล์ ละครน้ำเน่า ที่เต็มไปด้วยความสนุกและความเกินจริงในแบบที่แฟนละครไทยคุ้นเคย ตัวร้ายในเรื่องอย่าง ทิวธิศ (รับบทโดย บอม ธนวัฒน์ อุทัยกิจวานิช) น้องชายของธาดาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและความโลภ ถูกถ่ายทอดออกมาในแบบที่ทั้งน่ารำคาญและตลกจนอดขำไม่ได้ ฉากที่ทิวธิศระเบิดอารมณ์พร้อมลูกน้องเป็นอะไรที่เกินจริงแต่ลงตัวในสไตล์ละครไทย
สิ่งที่ทำให้ RESET โดดเด่นคือการผสมผสานความทันสมัยเข้ากับความเป็นละครน้ำเน่าแบบดั้งเดิม การกำกับของ ณัฐพงษ์ เน้นการเล่าเรื่องที่รวดเร็วและเต็มไปด้วยอารมณ์ ฉากที่อาร์มินต้องเผชิญหน้ากับผู้จัดการจอมวางแผนอย่าง ลิลลี่ หรือดาราคู่แข่งอย่าง เร็น ทำให้เรื่องราวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและดราม่า แต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่โมเมนต์หวานๆ ที่ทำให้หัวใจเต้นแรง
RESET การเกิดใหม่ของดวงดาว (2025) คือละครที่พาเราไปสำรวจความซับซ้อนของ โอกาสครั้งที่สอง ผ่านเรื่องราวของอาร์มิน ดาราที่ต้องเผชิญหน้ากับอดีตและสร้างอนาคตใหม่ ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ ปอนด์ พลวิชญ์ และ ปีเตอร์แพน ทัศน์พล รวมถึงสไตล์การเล่าเรื่องที่ผสมผสานความเป็นละครน้ำเน่ากับความทันสมัย ทำให้ละครเรื่องนี้ทั้งสนุก ซึ้ง และน่าจดจำ
