เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในคืนวัน คริสต์มาสอีฟ ที่บ้านของเด็กชายคนหนึ่ง เด็กชายคนนี้กำลังเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความจริงของซานตาคลอส เขาพยายามเอาชนะความสงสัยของตัวเอง แต่ก็ยังคงรู้สึกไม่มั่นใจขณะที่เขากำลังนอนหลับอยู่บนเตียง จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงคำรามกึกก้องจากข้างนอกบ้าน เขาวิ่งไปที่หน้าต่างและต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า รถไฟไอน้ำขนาดมหึมาที่ชื่อว่า “The Polar Express” ได้จอดเทียบอยู่หน้าประตูบ้านของเขาพนักงานขับรถไฟได้เชิญชวนเขาขึ้นไปบนรถไฟ ซึ่งเด็กชายตัดสินใจที่จะไปบนรถไฟเต็มไปด้วยเด็กๆ ที่อยู่ในชุดนอนเช่นเดียวกับเขา พนักงานขับรถไฟได้บอกกับเด็กๆ ว่ารถไฟขบวนนี้จะพาพวกเขาไปยัง ขั้วโลกเหนือ เพื่อให้พวกเขาได้พบกับซานตาคลอสตัวจริงระหว่างการเดินทาง เด็กชายของเราได้พบกับตัวละครสำคัญหลายคน
เด็กหญิงคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กที่ฉลาดและมีจิตใจดี เธอคอยช่วยเหลือเด็กชายของเราอยู่เสมอ เด็กขี้โมโห เด็กชายจอมยียวนที่มักจะทำตัวเป็นผู้นำและพูดจาไม่น่าฟัง เด็กชายตัวเล็กที่แสนขี้อาย เขาไม่มีเพื่อนและมักจะนั่งคนเดียวเงียบๆเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและ มหัศจรรย์ เกิดขึ้นมากมายตลอดการเดินทางการเสิร์ฟช็อกโกแลตร้อนสุดอลังการเด็กๆ ได้รับการต้อนรับด้วยช็อกโกแลตร้อนที่เสิร์ฟโดยพนักงานขับรถไฟด้วยลีลาการเต้นรำและร้องเพลงที่สนุกสนาน ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำที่สุดในเรื่องการเดินทางที่ท้าทาย รถไฟต้องวิ่งผ่านทางรถไฟที่อันตรายและน่าหวาดเสียว
ทั้งการวิ่งไปบนทางรถไฟที่ลื่นปรื๊ดด้วยน้ำแข็งบนยอดเขา การวิ่งไปบนทางรถไฟที่สูงชันและคดเคี้ยว และเกือบจะตกจากสะพาน แต่ก็สามารถผ่านพ้นมาได้ด้วยความสามารถของพนักงานขับรถไฟการช่วยเหลือเพื่อน เด็กชายของเราสังเกตเห็นว่ามีตั๋วรถไฟของเด็กชายที่ขี้อายหายไป และเขาก็ได้พยายามที่จะไปตามหาตั๋วใบนั้น แต่เขากลับพลัดหลงและได้เจอกับ ชายพเนจรลึกลับ ที่นั่งอยู่บนหลังคารถไฟ ซึ่งชายพเนจรคนนี้เป็นผีที่สิงสถิตอยู่บนรถไฟ และเขาได้ให้ข้อคิดและคำแนะนำบางอย่างกับเด็กชายของเราความตื่นเต้นที่ขั้วโลกเหนือ: เมื่อรถไฟไปถึงขั้วโลกเหนือ เด็กๆ ต่างตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็น ทั้งแสงสีที่งดงาม และโรงงานของเล่นขนาดใหญ่ที่มีเหล่าเอลฟ์ทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง
เมื่อถึงเวลาที่สำคัญที่สุด ซานตาคลอสได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกวางเรนเดียร์ของเขา และได้เลือกเด็กชายของเราให้เป็นคนแรกที่จะได้รับของขวัญคริสต์มาส แต่สิ่งที่เด็กชายเลือกไม่ใช่ของเล่นชิ้นใหญ่ หรือสิ่งของมีค่าใดๆ เขาเลือก กระดิ่งสีเงิน ที่หลุดออกมาจากบังเหียนของกวางเรนเดียร์เมื่อเขาขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางกลับบ้าน เขากลับพบว่ากระดิ่งสีเงินนั้นหายไป ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจ แต่เมื่อกลับถึงบ้านในเช้าวันคริสต์มาส เขาตื่นขึ้นมาและพบกล่องของขวัญที่ซานตาคลอส ฝากไว้ให้ ที่อยู่บนต้นคริสต์มาส ในกล่องนั้นมีกระดิ่งสีเงินที่เขาปรารถนาอยู่ภายใน
บทสรุปของการ รีวิวการ์ตูน เรื่องนี้สิ่งที่น่า มหัศจรรย์ ก็คือ เมื่อเด็กชายเขย่ากระดิ่ง เขาก็ได้ยินเสียงกังวานที่ไพเราะ แต่เมื่อเขาให้พ่อแม่ลองเขย่า พวกเขากลับไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย ทำให้เด็กชายได้เรียนรู้ว่าเสียงของกระดิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ได้ยินได้ด้วยหัวใจ และเป็นสิ่งที่เตือนให้เขาเชื่อมั่นในเวทมนตร์ของคริสต์มาส และในสิ่งมหัศจรรย์ที่มองไม่เห็นเรื่องราวนี้จบลงด้วยเสียงกระซิบของเด็กชายว่า “สำหรับคนที่มีความเชื่อ กระดิ่งยังคงส่งเสียงกังวาน” ซึ่งเป็นข้อคิดสำคัญของเรื่องที่สื่อให้เห็นถึงความหมายที่แท้จริงของเทศกาลคริสต์มาสและความสำคัญของการเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น