สตีฟ เมอร์ฟี

รีวิวซีรีส์ Narcos เมื่ออาชญากรรมกลายเป็นประวัติศาสตร์

คือซีรีส์แนวอาชญากรรม-ชีวประวัติ Narcos ที่สร้างโดย Chris Brancato, Carlo Bernard และ Doug Miro ออกฉายครั้งแรกทาง Netflix ในปี 2015 โดยเล่าเรื่องจริงของหนึ่งในอาชญากรที่โด่งดังที่สุดในโลก — พาโบล เอสโกบาร์ ราชายาเสพติดแห่งโคลอมเบีย ซีรีส์นี้แบ่งออกเป็นหลายซีซั่น โดย 2 ซีซั่นแรกจะโฟกัสที่ชีวิตของเอสโกบาร์ และซีซั่นที่ 3 จะต่อเนื่องไปยังเรื่องราวของแก๊งคาลี (Cali Cartel) ที่เข้ามามีบทบาทหลังการล่มสลายของอาณาจักรเมเดยิน

 

ใช้สไตล์การเล่าเรื่องแบบกึ่งสารคดี โดยมีเสียงบรรยาย (voice-over) จากสายลับ DEA ชาวอเมริกันอย่าง สตีฟ เมอร์ฟี (รับบทโดย Boyd Holbrook) และต่อมา ฮาเวียร์ เปญ่า (รับบทโดย Pedro Pascal) เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ตัวซีรีส์ผสมผสานภาพเหตุการณ์จริงเข้ากับการถ่ายทำ ทำให้ความรู้สึกในการรับชมเหมือนกำลังดูประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต การเล่าเรื่องไม่เพียงแค่สะท้อนถึงพฤติกรรมของอาชญากรเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงผลกระทบของยาเสพติดต่อประเทศ ระบบการเมือง และชีวิตของผู้คน Wagner Moura นักแสดงชาวบราซิล รับบทเป็นเอสโกบาร์ได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจ เขาสื่อสารเป็นภาษาสเปน (ซึ่งเขาต้องฝึกอย่างหนัก) และสามารถถ่ายทอดทั้งความโหดเหี้ยมและเสน่ห์ในตัวผู้นำแก๊งที่ทั้งรักครอบครัวแต่ก็พร้อมสังหารใครก็ตามที่ขวางทางได้อย่างลึกซึ้ง เอสโกบาร์ไม่ได้ถูกนำเสนอในฐานะปีศาจร้ายเพียงด้านเดียว แต่ยังมีมิติของความเป็นมนุษย์ ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกขัดแย้งและตั้งคำถามเกี่ยวกับศีลธรรมตลอดเวลา

สตีฟ เมอร์ฟี

สิ่งที่ทำให้ Narcos แตกต่างจากซีรีส์อาชญากรรมทั่วไป คือการเชื่อมโยงเรื่องราวของแก๊งยาเสพติดกับการเมือง ทั้งในโคลอมเบียและสหรัฐอเมริกา ซีรีส์แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของระบบราชการ การทุจริต และความพยายามของรัฐบาลในการต่อสู้กับสงครามยาเสพติด ซึ่งในหลายครั้งก็นำไปสู่การทำผิดศีลธรรมเช่นเดียวกับพวกอาชญากรเอง การถ่ายทำส่วนใหญ่อยู่ในโคลอมเบีย ทำให้ได้ภาพทิวทัศน์และบรรยากาศที่สมจริง ทั้งฉากในเมืองเมเดยิน หมู่บ้านชนบท และป่าเขา รวมถึงการออกแบบฉากและเครื่องแต่งกายที่สะท้อนยุค 80s ได้อย่างน่าเชื่อถือ เพลงประกอบ เช่นเพลงเปิด “Tuyo” ของ Rodrigo Amarante ก็ช่วยสร้างอารมณ์และกลิ่นอายละตินได้อย่างลงตัว

 

แม้ว่าจะได้รับคำชมมากมาย แต่ก็มีบางจุดที่อาจไม่ถูกใจทุกคน เช่น การที่ซีรีส์ใช้ภาษาอังกฤษและภาษาสเปนปนกัน ทำให้บางฉากอาจดูขัดจังหวะหรือไม่ลื่นไหลสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม นอกจากนี้ ลำดับเหตุการณ์บางตอนถูกปรับเปลี่ยนเพื่อความบันเทิง ทำให้ไม่ได้แม่นยำทางประวัติศาสตร์ 100% ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมต้องใช้วิจารณญาณในการแยกแยะ เป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การรับชมสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวอาชญากรรมที่อิงจากเรื่องจริง พร้อมทั้งนำเสนอภาพรวมของสงครามยาเสพติดในมุมมองที่ลึกซึ้งและซับซ้อน ซีรีส์ไม่เพียงแค่สะท้อนชีวิตของพาโบล เอสโกบาร์ เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐและผลกระทบที่ลุกลามไปทั่วทั้งสังคม

Scroll to Top