การกลับมาของ Gen V ซีซั่น 2 เหมือนการกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยอีกครั้ง หลังผ่านช่วงซัมเมอร์อันวุ่นวายและโกลาหลในซีซั่นแรก แต่คราวนี้สนามรบของเหล่านักเรียนซูเปอร์ฮีโร่ที่มหาวิทยาลัย Godolkin ดูจะเดือดดาลและเป็นส่วนตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการหวนคืนสู่บทบาทสำคัญของนักแสดงหนุ่ม เอซา เกอร์แมนน์ ในบทบาทของ แซม ริออร์แดน (Sam Riordan) ที่เจ้าตัวถึงกับเปรียบเทียบว่า “ไม่ต่างกับการเปิดเทอมใหม่” เลยทีเดียว
🌟 แซม: บทใหม่ของชีวิตที่ต้องค้นหาตัวเอง
เอซา เกอร์แมนน์ เล่าถึงการกลับมาถ่ายทำซีซั่น 2 ว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนได้ “ก้าวเข้าสู่โลกใหม่ทั้งหมด” ซึ่งเป็นคำอธิบายที่ตรงกับเส้นเรื่องของตัวละครแซมอย่างมาก ถ้าในซีซั่นแรกเราเห็นแซมเป็นเหยื่อที่ถูกกักขังและถูกทดลองอยู่ใน Gen V Season 2 ซีซั่นนี้คือการที่เขาหลุดพ้นจากกรงขังนั้น แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่หนักหน่วงและสภาวะจิตใจที่ซับซ้อนกว่าเดิม
- จากผู้ถูกกระทำ สู่ ผู้เล่นคนสำคัญ: แซมและเคท (Cate) กลายเป็นเหมือน ‘ฮีโร่รับเชิญ’ ที่ได้รับการเชิดชูจาก Vought ในตอนท้ายของซีซั่นที่แล้ว แต่การเป็น “ผู้ชนะ” ในสายตาคนอื่นไม่ได้แปลว่าปัญหาทางจิตใจของเขาจะหายไป ในซีซั่น 2 นี้ เอซาต้องพาแซมสำรวจมิติที่ลึกกว่าเดิม ทั้งการรับมือกับอาการทางจิต การพยายามเป็น ‘คนปกติ’ หรืออย่างน้อยก็เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ดี (ตามที่ Vought ต้องการ) และที่สำคัญคือความสัมพันธ์กับ เอ็มม่า (Emma) ที่พัฒนาไปในทิศทางที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยอุปสรรค
💥 การแสดงที่ “เป็นธรรมชาติ” และเต็มไปด้วยพลัง
หนึ่งในจุดเด่นของเอซา เกอร์แมนน์ คือความสามารถในการถ่ายทอดความไม่มั่นคงทางอารมณ์ของแซมออกมาได้อย่าง เป็นธรรมชาติ และไม่ ‘ดูพยายาม’ เหมือนการแสดงของ AI บทพูดของเขาอาจจะน้อย แต่สีหน้า แววตา และการใช้ร่างกาย (โดยเฉพาะเวลาที่เขาใช้พลังหรือเจอกับภาพหลอน) มันสื่อสารออกมาได้ชัดเจนว่าแซมกำลังเผชิญกับโลกภายในที่แตกสลายแค่ไหน
- เคมีที่เข้าขา: เคมีระหว่างเขากับ แมดดี้ ฟิลลิปส์ (Maddie Phillips) ในบทเคท และ ลิซซี่ บรอดเวย์ (Lizze Broadway) ในบทเอ็มม่า ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้พาร์ทของแซมน่าติดตาม การที่แซมเป็นตัวละครที่มีพลังมหาศาล แต่มีสติที่ไม่มั่นคง ทำให้เอซาต้องเล่นกับขีดจำกัดของความบ้าคลั่งและความอ่อนโยน ซึ่งเขาทำมันได้อย่างลงตัว
🧭 ซีซั่น 2: บททดสอบครั้งใหม่ที่ Godolkin
สิ่งที่ทำให้ Gen V ซีซั่น 2 แตกต่างออกไปคือการปรับตำแหน่งของตัวละครหลักทั้งหมด โดยมี คณบดีไซเฟอร์ (Dean Cipher) คนใหม่เข้ามาพร้อมหลักสูตรที่มุ่งเน้นการสร้างซูเปอร์ฮีโร่ให้ “ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม” ในภาวะที่สงครามระหว่างมนุษย์กับซูปกำลังคุกรุ่น นี่คือฉากหลังที่บีบคั้นให้แซมต้องเลือกข้าง และตัดสินใจว่า “การเป็นฮีโร่” ในโลกที่โหดร้ายของ Vought มันคืออะไรกันแน่
ซีซั่นนี้ทำให้เราได้เห็นว่าการตัดสินใจของแซมในซีซั่นที่แล้วมันส่งผลกระทบใหญ่หลวงอย่างไรต่อตัวเขาเองและเพื่อนๆ เอซา เกอร์แมนน์ จึงไม่ได้แค่ “กลับมาเล่น” แต่เป็นการกลับมาเพื่อสวมวิญญาณตัวละครที่กำลังเข้าสู่ บทใหม่ของชีวิต อย่างแท้จริง เป็นชีวิตที่เขาต้อง ค้นหาความจริงใหม่ ๆ ที่ถาโถมเข้ามา ในทุกๆ ตอน
🎯 สรุป
Gen V ซีซั่น 2 ยังคงรักษาความเข้มข้น ความกวนประสาท และความโหดร้ายตามสไตล์จักรวาล The Boys ไว้ได้อย่างครบถ้วน และการแสดงของ เอซา เกอร์แมนน์ ในบท แซม ก็เป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่ทำให้ซีรีส์น่าติดตามตลอดทั้งซีซั่น เขาได้พาตัวละครที่ซับซ้อนและน่าเห็นใจอย่างแซม ก้าวข้ามผ่านความเป็นเหยื่อในซีซั่นแรก สู่การเป็นตัวละครที่มีอำนาจและมีทางเลือก (ที่ต้องแลกมาด้วยการตัดสินใจที่เจ็บปวด) ซึ่งทำให้แฟนๆ ต้องลุ้นตามไปทุกย่างก้าวว่า “เปิดเทอมใหม่” ของแซมครั้งนี้ จะนำไปสู่จุดจบแบบไหนกันแน่
(จบการรีวิว)
🎬 ตัวอย่าง https://youtu.be/MA0PnTyP3XQ?si=KJw1_CHxbcCWbKAd
✨ บทความที่เกี่ยวข้อง
