nope

รีวิวภาพยนตร์เรื่อง Nope เมินไม่ลงกับความลึกลับบนท้องฟ้า

ภาพยนตร์ Nope ของผู้กำกับจอร์แดน พีล (Jordan Peele) คือผลงานที่ผสมผสานระหว่างความระทึกขวัญ ลึกลับ และไซไฟได้อย่างมีชั้นเชิง โดยเล่าเรื่องผ่านบรรยากาศชนบทอันเงียบงันของแคลิฟอร์เนีย พร้อมตั้งคำถามถึงสายตาของมนุษย์และสิ่งที่เราไม่ควรมอง

Nope

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ โอเจ เฮย์วูด (รับบทโดย Daniel Kaluuya) และ เอ็มเมอรัลด์ หรือ “เอ็ม” (รับบทโดย Keke Palmer) สองพี่น้องเจ้าของฟาร์มฝึกม้าสำหรับงานภาพยนตร์ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดในท้องฟ้าเหนือบ้านไร่ของพวกเขา หลังจากพ่อเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุปริศนา ทั้งสองเริ่มสังเกตเห็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ พวกเขาเชื่อว่ามีบางสิ่งไม่ปกติลอยอยู่เหนือท้องฟ้า และนั่นอาจเป็น ยูเอฟโอ หรือสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจเข้าใจได้ง่าย จุดเด่นของเรื่องนี้คือการสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกดดันโดยไม่ต้องพึ่งพาฉากหวือหวาหรือเอฟเฟกต์มากเกินไป ผู้ชมจะรู้สึกได้ถึงความเงียบ ความร้าง และอารมณ์หวาดระแวงที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในแต่ละฉาก ภาพถ่ายท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ให้ความรู้สึกเวิ้งว้างและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ขณะที่บทพูดและจังหวะการเล่าเรื่องนั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลังมาก โดยเฉพาะเมื่อค่อยๆ คลี่คลายว่า “ตัวจริง” ของสิ่งที่พวกเขาเห็นบนฟ้านั้นคืออะไรกันแน่

ด้านนักแสดง Daniel Kaluuya รับบทเป็นตัวเอกผู้มีบุคลิกนิ่งขรึม แต่แฝงความรู้สึกสับสนและเสียใจอย่างลึกซึ้ง ขณะที่ Keke Palmer ในบทเอ็มนั้นโดดเด่นและสดใส เป็นพลังสำคัญของหนัง เธอนำพาอารมณ์ขันและพลังชีวิตมาสู่เรื่องราวได้อย่างน่าประทับใจ อีกองค์ประกอบหนึ่งที่น่าสนใจคือการวิพากษ์อุตสาหกรรมบันเทิงและการ “จ้องมอง” ของมนุษย์ ซึ่งเป็นธีมที่แฝงอยู่ในแทบทุกฉาก ไม่ว่าจะเป็นความหมกมุ่นกับการจับภาพสิ่งแปลกประหลาด หรือความกระหายชื่อเสียงของบางตัวละคร ล้วนสะท้อนให้เห็นว่า “บางสิ่งไม่ควรถูกมอง” และความพยายามที่จะควบคุมธรรมชาติหรือสิ่งที่เราไม่เข้าใจ อาจนำมาซึ่งหายนะ ซึ่งใช้การถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX เพื่อเก็บภาพท้องฟ้าและฉากกลางคืนได้อย่างมีมิติ เสียงประกอบและดนตรีประกอบก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี ช่วยเสริมความตึงเครียดและลึกลับในแบบที่หนังของจอร์แดน พีลถนัด

Daniel Kaluuya

โดยรวมแล้ว Nope คือหนังที่ทั้งท้าทายและปลุกความคิด มันอาจไม่ได้ตอบคำถามทุกอย่างแบบชัดเจน แต่กลับชวนให้ตั้งคำถามต่อมนุษย์ ความอยากรู้ และสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม เป็นหนังไซไฟ-สยองขวัญที่ไม่เน้นความน่ากลัวแบบฉาบฉวย แต่เน้นที่บรรยากาศ และการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์อย่างลึกซึ้ง ใครที่ชอบหนังสไตล์ลึกลับและมีหลายชั้นให้ขบคิด คือตัวเลือกที่ไม่ควรเมินอย่างยิ่ง

Scroll to Top