“ยามาดะ ครอบครัวนี้ไม่ธรรมดา” หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า My Neighbors the Yamadas เป็นผลงานภาพยนตร์ อนิเมะจากสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ที่กำกับโดย อิซาโอะ ทาคาฮาตะ (Isao Takahata) ซึ่งฉีกกฎจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของสตูดิโออย่างสิ้นเชิง ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากมังงะสี่ช่องของ ฮิซาอิจิ อิชิอิ (Hisaichi Ishii) โดยนำเสนอเรื่องราวชีวิตประจำวันของครอบครัวยามาดะที่ประกอบด้วย ทาคาชิ (พ่อ), มัทสึโกะ (แม่), โนโบรุ (ลูกชายคนโต), โนโนโกะ (ลูกสาวคนเล็ก) และคุณย่าผู้มีอารมณ์ขัน
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ “ลายเส้น” ที่แตกต่างจากงานอื่นๆ ของจิบลิโดยสิ้นเชิง แทนที่จะใช้ลายเส้นที่ละเอียดอ่อนและสีที่สดใสเหมือนเรื่องอื่นๆ อย่าง Spirited Away หรือ Princess Mononoke ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับเลือกใช้ลายเส้นที่ดูเหมือนภาพวาดดินสอและสีน้ำ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านหนังสือการ์ตูนสี่ช่องอยู่จริงๆ ลายเส้นที่เรียบง่ายนี้กลับมีเสน่ห์และสื่อถึงความเป็นธรรมชาติของชีวิตได้อย่างน่าทึ่ง
เนื้อหาของภาพยนตร์ไม่ได้มีพล็อตเรื่องที่ซับซ้อน แต่เป็นการร้อยเรียงเรื่องราวสั้นๆ ที่เป็นเกร็ดชีวิตของ ครอบครัวยามาดะ เข้าด้วยกัน แต่ละตอนจะสะท้อนถึงความสัมพันธ์และความวุ่นวายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ ของพ่อกับแม่ ความกังวลของลูกๆ ที่เข้าสู่วัยรุ่น หรือความอบอุ่นที่แฝงอยู่ในชีวิตประจำวัน ถึงแม้จะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ภาพยนตร์กลับสอดแทรกปรัชญาและบทกวีไฮกุของญี่ปุ่นลงไปในแต่ละช่วง ทำให้เรื่องราวที่ดูธรรมดากลับมีความหมายและน่าประทับใจ
แม้ว่าในตอนแรกภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ในญี่ปุ่นเท่ากับภาพยนตร์จิบลิเรื่องอื่นๆ เนื่องจากความแตกต่างในรูปแบบการนำเสนอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป “ยามาดะ ครอบครัวนี้ไม่ธรรมดา” ก็ได้รับเสียงชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ จากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วโลกในฐานะผลงานที่กล้าหาญและเป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นภาพยนตร์ที่มอบความรู้สึกอบอุ่นหัวใจและชวนให้คิดถึงชีวิตครอบครัวของตัวเอง โดยที่ผู้กำกับต้องการให้เราได้หวนรำลึกถึงชีวิตที่แท้จริงผ่านเรื่องราวธรรมดาๆ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างงดงามและเรียบง่าย
โดยสรุปแล้ว ยามาดะ ครอบครัวนี้ไม่ธรรมดา ไม่ใช่ภาพยนตร์สำหรับผู้ที่มองหาการผจญภัยอันยิ่งใหญ่หรือเรื่องราวแฟนตาซีที่คุ้นเคยจากจิบลิ แต่เป็นภาพยนตร์สำหรับผู้ที่ต้องการซึมซับความเรียบง่าย ความสัมพันธ์ และความอบอุ่นในครอบครัว ผ่านงานศิลปะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่อาจถูกมองข้าม แต่กลับเป็นผลงานที่ทรงคุณค่าและน่าจดจำที่สุดเรื่องหนึ่งของสตูดิโอจิบลิ