รีวิวหนัง Bride Hard อึดนรกแต่ง อลหม่านพิทักษ์วิวาห์เพื่อนสาวบู๊พลังหญิงที่ถามหายาแก้ปวด      

 คือเป็นหนังที่แค่ได้เห็นใบหน้าที่สวยเปล่งประกายและท่วงท่าของ เรเบล วิลสัน ​ก็เหมือนคนดูจะล่วงรู้ได้เป็นเนืองๆ ว่าจะต้องเผชิญหน้าและรับแรงกระแสอะไรในคอนเทนท์นี้ เพราะการมาของ Bride Hard อึดนรกแต่ง หนังแอคชันป่วนวันวิวาห์เรื่องนี้ มาพร้อมกับความวายป่วงระดับหรรษา อีกทั้งยังเป็นการฉีกแนวครั้งล่าสุดของอดีตแม่สาวบิ๊กไซส์ ที่ตอนนี้กลายเป็นสาวหุ่นปัง ออกลีลาเหวี่ยงหมัดลั่นไกปืนอย่างเต็มไม้เต็มมือเป็นครั้งแรกเมื่อกลุ่มทหารรับจ้างได้บุกจู่โจมจับตัวแขกในงานแต่งงานหรูแห่งหนึ่งเอาไว้เป็นตัวประกัน พวกเขากลับไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า หนึ่งในเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งงานแห่งนี้ อย่าง แซม แท้ที่จริงแล้วเธอเป็นสายลับชุดปฏิบัติการ ที่พร้อมจะจัดการกับใครก็ตามที่เข้ามายุ่งกับงานแต่งงานของ เบตซีย์ เพื่อนรักของเธอ จิตใจสำนึกเดียวของเธอก็คือ..เอาให้ตายนี่ผลงานล่าสุดของตัวพ่อนักสร้างหนังบู๊ ไซมอน เวสต์ ที่เคยปั้นหนังดัง ๆ ระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ อย่าง Con Air หรือ Lara Croft: Tomb Rider ที่ล้วนแต่เป็นหนังแอคชันป๊อบคอร์นโดนใจคนดูในช่วงยุค Y2K แต่ก็ดูเหมือนว่าภาพบรรยากาศความเรืองรองในฝีมือของผู้กำกับท่านนี้ก็น่าจะได้กลายเป็นเพียงแค่อดีตไปเสียแล้ว เพราะต้องยอมรับความจัดจ้านในแง่ฝีมือการรังสรรค์ผลงานหนังบู๊ของเขาในยุคนี้ แทบจะแตะไม่ถึงเลเวลที่มาตรฐานยุคปัจจุบันทำเอาไว้

    ทำให้ผลลัพธ์ในแง่งานกำกับที่ออกมาใน Bride Hard นั้น เกือบจะไม่ต่างกับพวกบรรดาหนังแผ่นหนังเกรดบีอะไรทำนองนั้น บางทีอาจจะถึงขั้นมาตรฐานต่ำกว่าหนังลูกกวาดที่สร้างออกมาฉายทางสตรีมมิงในเยอะแยะทุกวันนี้เสียด้วยซ้ำ เพราะทุก ๆ มุมมองในแง่การกำกับของไซมอน เวสต์ แทบจะสอบตกในทุก ๆ แง่ในความเป็นภาพยนตร์ก็ว่าได้แต่ก็นับว่าเคราะห์ดีที่หนังยังมีจังหวะที่ชวนดูได้เพลิน ๆ ไปเรื่อยแบบพอสนุกได้อยู่ แม้ว่าในพาร์ทของบทหนังเรื่องนั้นจะเข้าขั้นไร้สติไปสักหน่อยก็ตาม คืออยากให้ผู้ชมปล่อยจอยสุด ๆ ระหว่างเสพย์หนังเรื่องนี้ ห้ามถามถึงเหตุผลใด ๆ เกี่ยวกับที่มาที่ไปของหนังเรื่องนี้ เพราะคุณไม่น่าจะได้คำตอบ เพราะกลายเป็น Bride Hard ที่มาพร้อมกับสไตล์บทหนังที่เชยมาก ๆ เหมือนย้อนกลับไปดูหนังยุค 2000s ซ้ำร้ายบทยังไม่สามารถบอกที่มาที่ไปในหลาย ๆ แง่ได้อย่างชัดเจน เรียกว่าอยากจะโยนอะไรเข้ามาใส่ก็ทำได้เลยแน่นอนว่างานกำกับที่สั่นคลอน มาพร้อมกับบทหนังที่ไหวเอน ก็มิอาจจะพาองค์ประกอบงานสร้างมั่นคงไปได้ จะว่าไปพวกโปรดักชันดีไซน์และการออกแบบฉากอะไรต่าง ๆ ก็ดูดีตามมาตรฐานใช้ได้ แค่ทว่ามันกลายเป็นส่วนผลิตที่น้อย…แต่น้อยไปด้วยจริง ๆ ทุกอย่างดูเทอะทะและเละเทะไปเกือบเสียหมด ตั้งแต่ดอกไม้ปลอม ๆ ในงานแต่ง ไปจนถึงปืนอาร์พีจีม็อกอัปที่ไร้ซึ่งน้ำหนักกระบอกนั้น นั่นจึงทำให้คุณภาพของหนังก็ถูกลดทอนลงไปด้วย

        ยังไม่เพียงไม่นั้น หนังยังจัดได้ว่ามีระบบการจัดการในส่วนการตัดต่อที่เข้าขั้นอดสูไม่เบาเลย ที่เราขออนุญาตไม่บอกเรียงนามก็แล้วกัน แต่เป็นมือตัดต่อที่คุ้นเคยกับการทำงานของผู้กำกับท่านนี้มาหลายเรื่อง แล้วผลลัพธ์ของมันค่อนข้างชวนหัวเสียและตัดอารมณ์ฉับ ๆ อยู่บ่อยครั้ง การตัดต่อเข้าขั้นเลวร้าย ไร้เสน่ห์ และไร้มิติอย่างสิ้นเชิง ซ้ำร้ายยังพบว่ามีหลาย ๆ จุดที่ตัดต่อแบบไร้ความต่อเนื่องระหว่างฉาย ไม่มีความสมูธใส่กันอย่างไม่น่าให้อภัย และไม่น่าเชื่อว่าปี 2025 จะยังเห็นหนังฝั่งฮอลลีวูดหลุด QC ออกมาให้เห็นอยู่ดังนั้นเหลือเพียงองค์ประกอบเดียวที่กลายเป็นที่พึงและยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับ Bride Hard เรื่องนี้ได้ นั่นก็คือแคสติ้งนักแสดง ที่ต้องยอมรับว่าแบกหนังเอาไว้สุดฤทธิ์ เรเบล วิลสัน กับบทบาทที่ได้รับอาจจะไม่ได้ใหม่สำหรับเธอ แต่อย่างน้อย ๆ มันก็แตกต่างและสร้างมุมที่ใหม่ให้กับเธอ นั่นก็คือการรับบทเป็นสาวบู๊เต็มตัว ที่ไม่ใช่แค่เพียงเป็นตัวละครขโมยซีน หรือตัวปล่อยมุกแบบเดิม ๆ เท่านั้น เธอยังคงใช้พรสวรรค์ที่ติดตัวมาในแง่การสร้างอรรถรสด้วยคารม ผนวกเข้ากับการสวมคาแรกเตอร์นำ แม้ว่าบทหนังมันจะไม่สามารถสร้างประสิทธิผลใด ๆ กับตัวละครของเธอได้เลยก็ตาม

แก๊งสาว ๆ อย่าง แอนนา แคมป์ , “แอนนา ชลัมสกี”, “เดอวีน จอย แรนดอลฟ์” และ “จีจี้ ซุมบาโด” คือทีมเวิร์กที่ค่อนข้างประคับประคองตัวหนังช่วยกันอย่างออกรสชาติ แม้ว่าจังหวะหลาย ๆ จุดของเธอจะค่อนข้างขาด ๆ เกิน ๆ เพราะการร้อยเรียงของบทที่ทะแม่งไปหมด ขณะที่ทีมดาราสมทบคนอื่น ๆ ก็พามาแกงและยำจี้อะไรก็ไม่รู้ จะบู๊ก็แค่เกือบสุด จะตลกก็ไม่สุดทาง ทุก ๆ องค์ประกอบในหนังนี้ยังค้าง ๆ คา ๆ ทิ้งเอาไว้แบบนั้น ถ้าไม่ได้ทีมเพื่อนสาวมาช่วยไว้ก็คือ..พินาศ

 

Scroll to Top