หากคุณกำลังมองหาอนิเมชันครอบครัวที่เติมเต็มด้วยภาพสวยและอารมณ์ขันแบบเด็กแผลงๆ เอลิโอ จาก Disney และ Pixar อาจเป็นคำตอบ แต่หากคุณคาดหวังเรื่องราวที่ลึกซึ้งและสร้างความประทับใจอย่างยั่งยืน อาจต้องเตรียมใจพบกับข้อเสียที่แฝงมาพร้อมกับความน่ารักของตัวละครหลัก หนังเรื่องนี้ถูกกำกับโดย Madeline Sharafian และ Domee Shi ผู้เคยสร้างผลงานคุณภาพอย่าง Turning Red แต่ครั้งนี้กลับไม่สามารถทำให้ “Elio” ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผลงานระดับตำนานของ Pixar ได้เต็มที่
เรื่องย่อ Elio (เอลิโอ)
เรื่องราวของ Elio (2025) เริ่มต้นด้วยการแนะนำว่าตัวละครเอก Elio (เสียงพากย์โดย Yonas Kibreab) เป็นเด็กกำพร้าที่ถูก Olga (เสียงพากย์โดย Zoe Saldaña) ลูกพี่ลูกน้องของเขารับเลี้ยง แม้ประเด็นนี้จะสอดคล้องกับธีมความเหงาและความต้องการการยอมรับ แต่ก็ไม่ใช่แนวคิดใหม่สำหรับ Disney ที่เคยนำเสนอเรื่องเด็กกำพร้ามาแล้วมากมาย เช่น The Lion King หรือ Tarzan ปัญหาคือการพัฒนาตัวละคร Olga ที่ดูจืดชืดและไม่มีมิติ นอกจากรายละเอียดว่าเธอเป็นทหารของ United States Air Force ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ถูกจับตามองมากกว่าบทบาทแม่บุญธรรม
เมื่อ Elio ถูกตัวละครต่างดาวลักพาตัวไปยัง Communiverse โลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ก็เปิดฉากขึ้น ฉากนี้เป็นจุดที่ Pixar แสดงศักยภาพด้านการออกแบบภาพและตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการพบกับ Glordon (เสียงพากย์โดย Remy Edgerly) เพื่อนใหม่ที่แบ่งปันความรู้สึกโดดเดี่ยวและแรงกดดันจากครอบครัว การเติบโตของ Elio จากเด็กที่เหงาและไม่มีเพื่อนมาสู่การเรียนรู้คุณค่าของมิตรภาพนั้นสัมผัสได้อย่างลึกซึ้ง แม้บทบางส่วนจะยังใช้ภาษาที่ตรงเกินไปจนขาดความละเอียดอ่อน
หนึ่งในประเด็นที่ถูกวิจารณ์คือการเน้นย้ำถึง United States Air Force ในเนื้อเรื่อง แม้บทบาทของ Olga จะไม่ใช่ทหารรบ แต่การใส่สัญลักษณ์และสถานที่ตั้งฐานทัพสหรัฐฯ อย่างชัดเจนกลับขัดกับธีมสันติภาพระหว่างดวงดาวที่หนังพยายามสื่อสาร คำถามที่เกิดขึ้นคือ “การเมืองควรเข้ามามีบทบาทในหนังเด็กได้แค่ไหน?” แม้ผู้สร้างอาจต้องการแสดงความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ แต่กลับทำให้ผู้ชมบางส่วนรู้สึกว่าหนังขาดความเป็นสากล
แม้ Elio (2025) จะไม่ใช่ผลงานระดับ Inception หรือ The Dark Knight ที่เปลี่ยนนิยามของหนังแอนิเมชัน แต่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นที่กำลังเผชิญกับความรู้สึกโดดเดี่ยว จุดเด่นคือการสื่อสารเรื่อง มิตรภาพและคุณค่า ของการเป็นตัวเอง แต่ข้อเสียคือบทบางส่วนที่ยังไม่ลึกพอและการใส่รายละเอียดทางการเมืองที่ไม่จำเป็น หากคุณเป็นแฟนของ Pixar หรืออยากดูหนังที่เติมเต็มด้วยจินตนาการ อาจให้โอกาสเรื่องนี้ได้