หากคุณเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่โลกของ Rogue Company เกมยิงมุมมองบุคคลที่สามสุดมันส์จาก First Watch Games และเผยแพร่โดย Hi-Rez Studios บอกเลยว่าคุณกำลังก้าวเข้าสู่สนามรบที่ทั้งเร้าใจและท้าทายมากที่สุดแห่งหนึ่ง! แต่ก่อนจะถือปืนออกไปยิงศัตรูให้แม่นเหมือนโปร ความเข้าใจใน โหมดเกม คือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะแต่ละโหมดมีกติกา รูปแบบการเล่น และกลยุทธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งวิธีการเล่นและประสบการณ์ของคุณโดยตรง
1. Demolition วางระเบิด แบบจัดอันดับ
นี่คือโหมดหลักสุดคลาสสิกและเป็นโหมดที่นิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบความจริงจัง มีการวางแผนและใช้ทีมเวิร์กสูง โดยในแต่ละรอบจะมีทีมหนึ่งเป็นฝ่าย “วางระเบิด” และอีกทีมต้อง “ป้องกัน” จุดวางระเบิด หากระเบิดทำงานสำเร็จ หรือฝ่ายป้องกันฆ่าศัตรูครบ ก็จะเป็นฝ่ายชนะรอบนั้น การชนะ 7 รอบก่อนจะถือว่าเป็นฝ่ายชนะเกม มือใหม่ควรเริ่มเรียนรู้โหมดนี้ตั้งแต่ต้น เพราะช่วยฝึกทักษะการยืนตำแหน่ง การใช้สกิล และการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมอย่างดีเยี่ยม
2. Strikeout โหมดเกิดใหม่จำกัด
โหมดนี้เหมาะสำหรับมือใหม่มากที่สุด Strikeout เพราะไม่ตายแล้วจบแบบโหมดวางระเบิด แต่สามารถ “เกิดใหม่” ได้หลายครั้ง โดยทั้งสองทีมจะมีชีวิตรวมกัน 12 ชีวิต เป้าหมายคือการยึดจุดควบคุมกลางแผนที่ และฆ่าศัตรูให้ครบก่อนที่ทีมจะหมดชีวิต โหมดนี้เหมาะกับการฝึกฝนปืน การเคลื่อนไหว และการใช้ตัวละคร (Rogue) ให้คุ้นเคย มันเร็ว สนุก และไม่เครียดจนเกินไปสำหรับมือใหม่
3. Skirmish Team Deathmatch โหมดตายแล้วเกิด
สำหรับสายยิงมันส์ไม่สนจุดควบคุม โหมดนี้คือสวรรค์ เพราะคุณและเพื่อนร่วมทีมต้องแข่งกันฆ่าให้ได้มากที่สุดในเวลาที่กำหนด ไม่มีภารกิจอื่นให้ต้องสนใจ แค่เล็งให้ไว ยิงให้แม่น และช่วยเพื่อนให้ทัน
เหมาะมากสำหรับฝึกเป้า และทำความคุ้นเคยกับการยิงแบบไม่ต้องกังวลเรื่องกลยุทธ์มากนัก
4. Wingman โหมด 2v2 สนามเล็ก
ถ้าอยากฝึกความเข้าใจใน Wingman แบบจดจ่อ โหมดนี้คืออีกหนึ่งทางเลือก เพราะเป็นการแข่งแบบ 2 ต่อ 2 บนแผนที่ขนาดเล็ก เล่นเร็ว จบไว แต่อัดแน่นด้วยทักษะที่ต้องใช้แบบเฉพาะตัวมาก ทั้งการยิง การหลบ การวางสกิล และการคุมพื้นที่ มือใหม่อาจเจอความยากเล็กน้อย แต่ก็เป็นโหมดที่ช่วยให้ฝึกฝีมือแบบจริงจังได้เร็วที่สุด