ภาพยนตร์แอ็กชัน-ระทึกขวัญของเกาหลีใต้ ที่เป็น สปินออฟ จากจักรวาลเดียวกับ Kill Boksoon อย่าง Mantis เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ ลี ฮันอุล หรือที่รู้จักในนามรหัสแมนทิส ซึ่งเป็นนักฆ่าระดับยอดฝีมือ ได้ตัดสินใจพักงานชั่วคราวไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เมื่อเขากลับมายังวงการนักฆ่าตามเดิม กลับพบว่าโลกแห่งการจ้างวานฆ่า (contract killer industry) ได้ล่มสลาย กลุ่มองค์กรและโครงสร้างอำนาจถูกเขย่าอย่างรุนแรง — MK Enterprise ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของระบบนักฆ่า ถูกทิ้งให้ขาดผู้นำหลังจากการตายของประธานบริษัท ฮันอุลถูกดึงกลับเข้าสู่สมรภูมิแห่งอำนาจและการต่อสู้ภายในองค์กร เขาเผชิญหน้ากับ ชิน แจ-อี อดีตเพื่อนร่วมฝึกซ้อมและคู่แข่งคนสำคัญ เธอเคยถูกขับไล่ออกจาก MK Enterprise เนื่องจากความขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา และมีความรู้สึกคาราคาซังเรื่องความไม่เป็นธรรมในอดีต ตัวอย่างภาพยนตร์ Mantis | Netflix
นอกจากนี้ ยังมี ดกโก อดีตนักฆ่าระดับตำนาน ผู้เคยเป็นครูฝึกและผู้ก่อตั้งองค์กร MK Enterprise เขาได้ลุกขึ้นมารับบทบาทเป็นผู้นำองค์กรอีกครั้งหลังการล่มสลายของโครงสร้างเดิม และพยายามโน้มน้าวให้ฮันอุลกลับมาร่วมงานกับเขา เพื่อฟื้นฟูอำนาจเก่า เมื่อทั้งสามคน — ฮันอุล, แจ-อี, ดกโก — ต่างมีเป้าหมายของตนเองอยู่เบื้องหลัง ทั้งในเรื่องอำนาจ ความทะเยอทะยาน และศักดิ์ศรี เส้นทางขัดแย้งจึงเกิดขึ้น พันธมิตรสลับข้าง เกิดการทรยศ และการทดลองเล่นทุกวิถีทางเพื่อก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในโลกมืดแห่งนักฆ่า ในตอนจบ มีการปะทะกันแบบ “สามทาง” ระหว่างฮันอุล, แจ-อี และดกโก เพื่อชิงอำนาจสูงสุดใน MK Enterprise และพื้นที่อำนาจในการควบคุมนักฆ่าใหม่ ภาพยนตร์เรื่องนี้บรรจงนำเสนอเรื่องราวของ “คนในโลกมืด” — ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของการสังหารและความรุนแรง แต่ยังแฝงไปด้วยประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ในอดีต ความภักดี และแรงปรารถนาที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือใคร ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องราวของการกลับมาในเวลาที่ทุกอย่างล่มสลาย และการต่อสู้ที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชนะ ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ gamemanganews.com
จุดเด่นของภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง Mantis
- โลกนักฆ่าที่ต่อยอดจากจักรวาล Kill Boksoon
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้น่าสนใจคือการขยายจักรวาลของภาพยนตร์ Kill Boksoon ที่เคยสร้างชื่อในระดับนานาชาติไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาคต่อ แต่เป็น “สปินออฟ” ที่เล่าเรื่องจากอีกมุมหนึ่งของโลกนักฆ่า ซึ่งเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ ความลับ และการหักหลัง ภาพยนตร์จึงมีทั้งความเชื่อมโยงและเอกลักษณ์ของตัวเอง เหมาะกับทั้งผู้ที่เคยดู Kill Boksoon และผู้ชมหน้าใหม่ที่อยากสัมผัสโลกมืดที่มีชั้นเชิงทางอำนาจซับซ้อน
- คาแรกเตอร์หลักมีมิติและแรงจูงใจชัดเจน
ตัวละครในเรื่องนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพียงเพื่อให้เกิดฉากแอ็กชัน แต่แต่ละคนมี “เหตุผล” และ “อดีต” ที่ผลักดันให้พวกเขาเลือกเส้นทางนักฆ่า เช่น ฮันอุลที่ต้องกลับเข้าสู่โลกที่เขาเคยทิ้งไป, แจ-อีที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและแรงแค้นในอดีต และดกโกที่ต้องการฟื้นคืนอำนาจขององค์กรเก่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามคนเต็มไปด้วยแรงดึงดูดทางอารมณ์และการต่อสู้ทางจิตใจที่เข้มข้น ทำให้เรื่องนี้มีมากกว่าความระทึก แต่ยังมีความลึกซึ้งของตัวละคร
- ฉากแอ็กชันและงานภาพระดับสากล
โดดเด่นด้วยการออกแบบฉากต่อสู้ที่ละเอียด ประณีต และมีจังหวะการกำกับที่ดุดันแบบสไตล์เกาหลี ผสมกลิ่นอายของภาพยนตร์นัวร์ยุคใหม่ การเคลื่อนไหวของกล้องและการใช้แสงเงาทำให้ฉากต่อสู้มีทั้งพลัง ความสวยงาม และความโหดในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะฉากดวลตัวต่อตัวของฮันอุลกับแจ-อี ที่ได้รับคำชมเรื่องอารมณ์และเทคนิคภาพระดับฮอลลีวูด
